ความแตกต่างของคุณภาพสายแลนที่มีราคาสูงกับต่ำ

ความแตกต่างของคุณภาพสายแลนที่มีราคาสูงกับต่ำ

ปัญหาอินเตอร์เน็ตนั้นเป็นปัญหาที่เหมือนจะพบเจอกันแทบทุกแห่ง หรือแทบทุกองค์กร เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นอินเตอร์เน็ตช้าบ้างละ อินเตอร์เน็ตต่อไม่เสถียรบ้างละ ไม่นับรวม ที่ใช้งานไม่ได้ และสารพัดปัญหาอีกมากมาย ที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ หรือ Enuser นั้นมักจะโทษแต่ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต หรือโพไวเดอร์ เท่านั้น แต่ไม่เคยสำรวจปัญหาอย่างจริงจังเลยว่า ปัญหาเหล่านั้นเกิดจากอะไร ยิ่งองค์กรไหนที่เปิดมานานมีการวางระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่ค่อนข้างนานมากแล้ว ซึ่งซับซ้อน และยากต่อการแก้ไขจึงทำให้แอดมินหลายๆคน ไม่กล้าที่จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย ทั้งที่ในความเป็นจริงปัญหาดังกล่าว อาจมาจากอุปกรณ์หรือสายแลนมีปัญหาก็เป็นได้ ซึ่งองค์กรส่วนใหญ่นั้น ยังให้ความนิยมในการใช้อินเตอร์เน็ตผ่านสายแลน เนื่องจากเรื่องของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของบริษัทที่ใช้อยู่นั้นยังไม่รองรับ กับอินเตอร์เน็ตแบบไร้สาย ซึ่งทำให้การดูแลรักษาทำได้ยากกว่า ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงปัญหาใหญ่ของเรื่องสายแลนที่แอดมินหลายๆคนนั้นต้องปวดหัวกันมาก กับสายแลนราคาถูกคุณภาพต่ำ ที่มาพร้อมกับปัญหาจุกจิกมากมาย ให้แก้ไม่เว้นแม้แต่ละวัน

หลายๆคนที่อยู่ในวงการ Network อาจพอเคยได้ยินเรื่องขำๆ ที่มีการนำน้ำแดงมาไหว้เครื่องเซิฟเวอร์ เพื่อขอให้ระบบไม่ล้ม ไม่มีปัญหา ซึ่งปัญหาที่พบบ่อยสุดนั้นคือปัญหาเรื่องอินเตอร์เน็ต หากเราวิเคราะห์กันให้ดีๆ แล้วจะทำให้เราพบปัญหาเรื่องของอุปกรณ์ หลักๆ คือเรื่องของ เครื่องเซิฟเวอร์ และ สายแลน ที่ทำหน้าที่ในการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ขององค์กรทุกตัวเข้าด้วยกันและเชื่อมต่อไปยังอินเตอร์เน็ตออกสู่ภายนอก ซึ่งนี่และครับ เป็นจุดสำคัญ ที่หลายๆองค์กรมองข้าม คิดเพียงแต่ว่าลดคอร์สค่าใช้จ่ายให้ต่ำเข้าไว้ เลือกใช้สายแลนอะไรก็ได้ที่ราคาต่อเมตรถูกไว้ก่อน ที่เหลือค่อยไปลงกับอุปกรณ์ส่วนอื่นเอา ซึ่งความคิดแบบนี้เป็นความคิดที่ผิดครับ เพราะหากเราเลือกใช้สายแลนที่มีคุณภาพต่ำนั้น จะทำให้การส่งสัญญาณ ทำได้ไม่ดี ถูกรบกวนง่าย และไม่คงทน ซึ่งสายที่ดี นั้นต้องทำจากวัสดุนำไฟฟ้าได้ดี และได้มาตรฐานการรับรอง มีฉนวนหุ้มป้องกันสัญญาณรบกวนจากภายนอกที่แน่นหนา และ มีความแข็งแรงทนทาน ไม่ติดไฟง่าย นอกจากนั้นสายคุณภาพต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพ ก่อนนำมาใช้งานจริง เพราะบางผู้รับเหมาติดตั้งนั้น เลือกใช้สายสำเร็จรูป หรือไม่มีเครื่องมือวัดคุณภาพ การทำงานของสายแลนก่อนใช่จริง จึงทำให้มีปัญหาตอนนำไปใช้ และที่สำคัญอีก 2 ส่วน หลักๆของสายแลนเลยนั้นคือ การเลือกใช้สายแลนให้ถูกลักษณะ เพราะสายแลนนั้นมีหลายประเภท เช่น ใช้ใน Indoor และ outdoor ซึ่งสายที่ใช้ภายในตัวอาคารที่เราเห็นนั้นก็จะเป็นเหมือนสายแลนทั่วไป ที่มีสายยางหุ้มฉนวนไว้ ซึ่งหากเป็นสายแลนที่ลักษณะใช้งาน Outdoor นั้น ก็จะมีสลิงขึงพาดระหว่างเสาไฟ หรือตัวตึกเพื่อป้องกันการยืดตัวของสายแลน และที่เด่นชัดเลยคือความคงทนที่ถูกออกแบบมาให้ทนต่อสภาวะ อากาศ แดด ลม ฝนได้ดีกว่าแบบภายในหลายเท่าตัว และอีกหนึ่งข้อคือ การเลือกใช้สายแลนให้เหมาะสมกับอุปกรณ์เครือข่ายของเรา ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ Switch Hub Router หรือ Lan Card ของเราด้วย เพราะหากเลือกใช้ไม่เหมาะสม หรือแมตซ์กัน จะเกิดปัญหาที่ตามมาภายหลังอย่างแน่นอน เช่น ปัญหาคอขวด หรือปัญญาเมื่อเปลี่ยนสายแลนใหม่แต่อินเตอร์เน็ตยังช้าเหมือนเดิม เราต้องดูที่ Switch Hub Router หรือ Lan Card ด้วยว่ารองรับความเร็วสูงสุดอยู่ที่เท่าไหร่ เพราะสายแลนเองก็มีหลายมาตรฐาน เช่น Cat5 , Cat5e , Cat6 เป็นต้น

ดังนั้นจึงควรเลือกสายแลนคุณภาพ ให้เหมาะสมกับอุปกรณ์เครือข่าย และหากบริษัท หรือองค์กรไหนกำลังจะปรับปรุงหรือวางระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตใหม่แนะนำให้เลือกใช้บริการจากผู้ให้บริการที่เชี่ยวชาญ และวางใจได้ เพื่อที่จะได้แก้ปัญหา ในเรื่องอินเตอร์เน็ตให้หายขาดได้ และดียิ่งขึ้น

ท้ายนี้ขอสรุป ข้อเปรียบเทียบของคุณภาพสายแลนที่มีราคาสูงกับต่ำ กันแบบง่ายๆเพื่อให้เข้าใจและเห็นภาพมากยิ่งขึ้นครับ สายแลนคุณภาพดี หรือเกรดดีนั้นมักจะมีราคาสูงกว่าสายแลนคุณภาพต่ำอยู่บ้าง แต่แลกมาด้วยคุณภาพของวัสดุ ที่ทำไฟฟ้าได้ดี ซึ่งส่งผลต่อ การรับส่งข้อมูล หรือการส่งสัญญาณที่ดีมากยิ่งขึ้น ความทนของสายสัญญาณ และความเสถียร และได้มาตรฐาน ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อความเสถียรต่อระบบทั้งสิ้น ทำให้การใช้งานอินเตอร์เน็ตหรือใช้งานในองค์กร นั้นรวดเร็ว ปัญหาลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทำให้แอดมิน หรือเจ้าของธุรกิจนั้นหมดห่วงกับปัญหาอินเตอร์เน็ต เพราะบางธุรกิจ อินเตอร์เน็ตคือหัวใจของธุรกิจเลยก็ว่าได้ ดังนั้นหากให้เราแนะนำ เราขอแนะนำให้เลือกใช้สายแลนคุณภาพมากกว่าสายแลนที่ราคาถูก แต่มาพร้อมกับปัญหามากมายสารพัด ที่ทำให้คุณต้องปวดหัว